วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

10 วิธีจัดการอารมณ์บูด

10 วิธีจัดการอารมณ์บูด

อันดับที่ 10

  อยู่ ท่ามกลางคนที่มีความสุข
อารมณ์ดีเป็นโรคติดต่อที่แพร่ได้เร็วมา เราจะเลียนแบบสีหน้า การแสดงออก กล้ามเนื้อ ท่าทาง รูปแบบการพูด เพื่อให้เข้ากับคนที่เราอยู่ด้วยโดยที่เราไม่รู้ตัว 




อันดับที่ 9


  โทรหาเพื่อน
การขอความช่วยเหลือทำให้คนเรารู้สึกผูกพันกับคนอื่นและรู้สึกโดดเดี่ยวน้อย ลง และการโอบกอดช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกดีออกมา ซึ่งจะช่วยให้เรารับมือกับอารมณ์ได้ 




อันดับที่ 8


  ฟังเพลง
งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า จังหวะของเสียงเพลงช่วยจัดระเบียบความคิดและความรู้สึกมั่นคงภายในจิตใจ และช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ 




อันดับที่ 7


  รู้จักไตร่ตรองแยกแยะ
เราต้องมีสติสามารถไตร่ตรองแยกแยะได้ ว่าเรากำลังทำอะไร กับใคร อยู่ที่ไหน แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้น หรือผลที่ตามมาคืออะไร หากเรารู้จักไตร่ตรองเราก็จะทำอะไรไม่ผิดพลาด 




อันดับที่ 6


  ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายช่วยให้เราแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ การออกกำลังกายอย่างน้อยแค่วันละ 20 นาที สามารถทำให้รู้สึกสงบและมีความสุขได้ การออกกำลังจะช่วยเพิ่มการผลิตเอ็นดอร์ฟีนของร่างกายด้วย เอ็นดอร์ฟีนเป็นสารเคมีในร่างกาย ที่ทำให้เกิดความรู้สึกดีและมีความสุขตามธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งยาเสพติด 




อันดับที่ 5


  สังเกตอารมณ์ตัวเองในเวลาช่วงต่างๆ ของเดือน
ผู้หญิงบางคนพบว่า ช่วงเวลาที่ตัวเองอารมณ์ไม่ดีสัมพันธ์กับรอบเดือน 




อันดับที่ 4


  ใส่ ใจกับความรู้สึกของตนเองในเวลาแต่ละช่วงวัน
การตระหนักรู้ถึงอารมณ์ของตัวเองจะทำให้เราจับคู่งานที่เราต้องทำกับระดับ พลังงานในตัวได้อย่างเหมาะสม เช่น ถ้าเรารู้สึกดีที่สุดตอนเช้าแสดงว่าตอนเช้าคือเวลาจัดการกับงานเครียดๆ เช่น ไปเจอเพื่อนที่ทำร้ายจิตใจเรา หรือคุยกับครูที่เราคิดว่าให้เกรดเราผิด ถ้าปรกติเราหมดแรงตอนบ่าย ให้เก็บเวลาช่วงนั้นเอาไว้ทำกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้พลังทางอารมณ์มาก เช่น อ่านหนังสือหรืออยู่กับเพื่อน อย่าทำอะไรเครียดๆ เวลาเหนื่อยหรือเครียด 




อันดับที่ 3


  ใช้เวลาอยู่กับคนที่ทำให้เธอหัวเราะได้
ถ้าเราอยู่กับคนที่ทำให้เราหัวเราะได้เสมอ เราก็จะได้หัวเราะมากขึ้น อารมณ์ก็จะดีขึ้นมากอีกด้วย 




อันดับที่ 2


  หาสมุด บันทึกสักเล่มไว้เขียนก่อนเข้านอนทุกวัน
ในสมุดบันทึกเล่มนี้ ห้ามเขียนเรื่องไม่ดี จงเขียนแต่เรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ตอนแรกอาจจะยากหน่อย แต่ให้เขียนเรื่องอย่างเช่น มีคนแปลกหน้ายิ้มให้ ถ้าได้ลองตั้งใจทำ มันจะเปลี่ยนความคิดให้เรามองหาแต่เรื่องดีๆ จากการศึกษาพบว่า คนที่คิดฆ่าตัวตายมีอาการดีขึ้นหลังจากเริ่มเขียนบันทึกเรื่องดีๆ ได้เพียงสองสัปดาห์ 




อันดับที่ 1


  มองโลกในแง่ดี
เมื่อ เรามีความคิดที่ทำให้ซึมเศร้า เช่น "ฉันทำวิชาเลขไม่ได้" ให้คิดใหม่ว่า "ถ้าฉันได้รับความช่วยเหลือที่ถูกต้องฉันก็จะทำได้" แล้วไปหาครู ครูพิเศษ หรือให้เพื่อนช่วยติวให้


อ้างอิง : http://www.toptenthailand.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น