ไมค์ไก่ไร้หัว (Mike the Headless Chicken1)
(เมษายน 1945 – มีนาคม 1947)
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละครับ เพราะเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อไก่โดนตัดหัวแต่มันก็ยังมีชีวิตนานนับปี
ไมค์ไก่รู้หัวหรือรู้จักในชื่อ Wyandotte rooster ปกติมันก็เป็นไก่ธรรมดานี้แหละ อาศัยอยู่ในเล้าของครอบครัวธรรมดาคนหนึ่งใน ที่ Fruita รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ที่เลี้ยงมันเพื่อหวังเป็นอาหารอันโอซะในมือเล็กๆ ของครอบครัว เจ้าไก่ไมค์ก็เลี้ยงแบบไก่ธรรมดาแหละ ปล่อยหากินให้ข้าวเปลือก ไม่ได้พิเศษกว่าไก่ตัวอื่นๆ จนกระทั้งมันโต 18 เดือนผ่านไป...
(เมษายน 1945 – มีนาคม 1947)
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อละครับ เพราะเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อไก่โดนตัดหัวแต่มันก็ยังมีชีวิตนานนับปี
ไมค์ไก่รู้หัวหรือรู้จักในชื่อ Wyandotte rooster ปกติมันก็เป็นไก่ธรรมดานี้แหละ อาศัยอยู่ในเล้าของครอบครัวธรรมดาคนหนึ่งใน ที่ Fruita รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา ที่เลี้ยงมันเพื่อหวังเป็นอาหารอันโอซะในมือเล็กๆ ของครอบครัว เจ้าไก่ไมค์ก็เลี้ยงแบบไก่ธรรมดาแหละ ปล่อยหากินให้ข้าวเปลือก ไม่ได้พิเศษกว่าไก่ตัวอื่นๆ จนกระทั้งมันโต 18 เดือนผ่านไป...
ในวันที่ 10 กันยายน ปี 1945 เวลา 6.45 น. เย็นวันนั้น สามีภรรยาครอบครัวเกษตรกรโอลเซ่น ตั้งใจจะทำเมนูไก่เป็นอาหารมื้อค่ำให้แม่ยายของเขารับประทาน โดยเจ้าไมค์คือไก่เคราะห์ร้ายที่คู่สามีภรรยาเลือกเพื่อเป็นนำวัตถุดิบในการปรุงอาหารขึ้นโต๊ะ โดยจากการสุมของภรรยา แต่เมื่อนายโอลเซ่น (Lloyd Olsen) ได้ลงคมขวานฟันคอเจ้าไมค์ฉับ!!! เลือดไก่กระจายลงเขียง และท่ามกลางกองเลือดไก่และเศษขนไก่นั้น นายโอลเซ่นก็ต้องตะลึงพรึงเพริดได้อย่างประหลาดใจเหลือจะกล่าว เมื่อเจ้าไมค์ที่ไม่มีหัวนั้นยังไม่ตายแถมโดดลงจากเขียงและพยายามจะวิ่งหนีไป มันเดินแบบรักษาสมดุลโดยเดินกะเล่อกะล่าเล็กน้อย ด้วยความแปลกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น นายโอลเซ่นเลยหมดความต้องการจะกินเจ้าไมค์ในทันใด (กินลงอีกก็แปลกล่ะ) ก็เลยเอาเจ้าไมค์ไปเก็บไว้ในเล้าตามเดิม
ในวันรุ่งขึ้นเจ้าของกลับว่าเจ้าไมค์กลับมาอยู่เล้าทั้งๆที่ไม่มีหัว แล้วยังทำท่าคุ้ยเขี่ยหาอาหารเหมือนกับไก่ทั่วๆไปผิดแต่ว่ามันไม่มีหัวเท่านั้นเอง! เจ้าของเลยสงสัยว่ามันอยู่ไปได้อีกนานเท่าไหร่ก็เลยเลี้ยงไปเรื่อยๆ อย่างถวารโดยให้อาหารด้วยที่หยอดตาผ่านทางหลอดอาหาร โดยเลี้ยงด้วยข้าวโพด และดูเสมหะและน้ำมูกโดยใช้เข็มฉีดยา(มีการชั้งไมค์ไก่ไร้หัวที่ขาดจากกันพบว่าไมค์มีน้ำหนักสองปอนด์ครึ่ง น่าแปลกหลังไมค์ตายนั้นน้ำหนักมันเพิ่มถึงแปดปอนด์)
มีการสันนิษฐานต่างๆ นาๆ ว่าทำไมไมค์ถึงมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ทั้งๆ ที่ไร้หัว ทฤษฏีหนึ่งที่ยอมรับที่สุดคือเนื่องจากคมมีดนั้นตอนตัดคอไมค์ไม่ได้ทำให้เส้นเลือดแดง (เป็นเส้นเลือดแดงที่อยู่บริเวณคอ แม้สมองและการได้ยินได้ถูกตัดขาดไปแล้ว แต่ปัจจัยการดำรงชีวิตยังมีอยู่(หายใจ การเต้นหัวใจ ฯลฯ)
หลังจากนั้นไมค์ก็มีชื่อเสียงโด่งดังข้ามคืน โดยเจ้าของไมค์นำมันมาแสดง Sideshows เดินสายไปโชว์ตัวตามรัฐต่างๆ จนนิตรสารนิตรสาร TIME มาขอทำเรื่องนี้ทำให้เจ้าไมค์ดังเป็นพลุแตกทั่วโลกเลย
ไมค์ถูกนำแสดงในที่จัดแสดงให้คนอื่นได้ดู โดยแลกกับการจ่ายเพื่อเข้าชมในเราคา 25 เซนต์ และค่าตัวของไก่จากราคาไม่กี่บาทก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 4,500 ดอลลาร์สหรัฐในสมัยก่อนถือว่าเยอะมาก(ปัจจุบันเท่ากับ 50,000 ดอลลาร์) เจ้าของไมค์ประสบคราวสำเร็จอย่างสูง จนกระทั่ง.......ส่งผลทำให้มีคนเลียนแบบทั่วประเทศก็เลยทำให้ทุกบ้านมีไก่ย่างกินเป็นอาหารเย็นกันทุกวันแต่ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ
จนกระทั่งในเดือนมีนาคม 1947 ในเวลานั้นเจ้าของและไมค์พักในโมเต็นฟินิกซ์ซึ่งหยุดพักในขณะที่เดินทางกลับจากทัวร์ ไมค์ก็เกิดอาการดิ้นทุรนทุรายในกลางดึก เนื่องจากเจ้าของไม่ได้ทำความสะอาดหลอดลมของไมค์ให้ๆ ดีๆ ทำให้เมล็ดข้าวโพดเข้าไปติดหลอดลมของไมค์ จนกระทั้งไมค์ตาย สรุปคือไมค์สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้รวมประมาณ 18 เดือนพอดี
เรื่องของไมค์กลายเป็นตำนานของเมืองโคโลราโด จนมีการจัดวัน "ไมค์ไก่ไร้หัว (Mike the headless Chicken Day)" ขึ้นมาทุกๆปี โดยจัดในสุดสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤษภาคม ซึ่งเริ่มต้นในปี 1999 เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน ในงานมีการโยนไข่, แข่งประกวดไก่ร้องกระต๊าก และไก่บิงโก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น